สูตรอาหารไทย "แกงเลียง"
เมนูอาหารภาคกลางอีกหนึ่งเมนูอาหารเพื่อสุขภาพ เป็นแกงไทยที่มีมาแต่โบราณ
มีการปรุงรสจากผักสารพัดชนิด โดยจะเน้นที่ผักมากกว่าเนื้อสัตว์
น้ำแกงที่ได้จะข้นสักหน่อย มีรสเผ็ดร้อนจากพริกไทยแต่ไม่เผ็ดจัดจนเกินไป
รสชาติเค็มพอดี ออกหอมหวานนิดๆที่ได้จากผักสมุนไพรสดๆหลากชนิด
ส่วนใหญ่เป็นผักพื้นบ้านหาง่าย เช่น ฟักทอง บวบ น้ำเต้าอ่อน ตำลึง หัวปลี
เป็นต้น ที่มีสรรพคุณทางยาอยู่มาก
และผักที่ขาดไม่ได้คือใบแมงลักซึ่งทำให้แกงเลียงมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์
และในใบแมงลักนี้ยังให้สารเบต้าแคโรทีน
ป้องกันโรคมะเร็งและโรคหัวใจขาดเลือดอีกด้วย
สำหรับสูตรที่ นำมาฝากนี้เป็นสูตร"แกงเลียงกุ้งสดผักรวม"ครับ รับประทานตอนร้อนๆพร้อมข้าวสวย รับรองว่าทำออกมาอร่อยมากมาย ใครไม่เชื่อก็ลองทำรับประทานดู ถ้านึกเบื่อๆไม่รู้จะทานอะไร ขอแนะนำแกงเลียงสักถ้วยแล้วจะอร่อยติดอกติดใจ นอกจากความร่อยเด็ดเฉพาะตัวของแกงเลียงแล้ว เมื่อได้รับประทานแล้วจะรู้สึกสดชื่นหูตาสว่างขึ้นมาเลยล่ะ ที่มีขั้นตอนและวิธีทำง่ายๆตามนี้...
สำหรับสูตรที่ นำมาฝากนี้เป็นสูตร"แกงเลียงกุ้งสดผักรวม"ครับ รับประทานตอนร้อนๆพร้อมข้าวสวย รับรองว่าทำออกมาอร่อยมากมาย ใครไม่เชื่อก็ลองทำรับประทานดู ถ้านึกเบื่อๆไม่รู้จะทานอะไร ขอแนะนำแกงเลียงสักถ้วยแล้วจะอร่อยติดอกติดใจ นอกจากความร่อยเด็ดเฉพาะตัวของแกงเลียงแล้ว เมื่อได้รับประทานแล้วจะรู้สึกสดชื่นหูตาสว่างขึ้นมาเลยล่ะ ที่มีขั้นตอนและวิธีทำง่ายๆตามนี้...
ผักและเนื้อใส่แกงเลียง
(ไม่ต้องครบตามสูตรหรือใส่มากกว่าก็ได้ เลือกผักที่เราชอบหรือเท่าที่หาได้ ก็ทำแกงเลียงอร่อยทั้งนั้น)
(ไม่ต้องครบตามสูตรหรือใส่มากกว่าก็ได้ เลือกผักที่เราชอบหรือเท่าที่หาได้ ก็ทำแกงเลียงอร่อยทั้งนั้น)
- ฟักทอง (ปอกเปลือก หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ) 1 ถ้วย
- บวบหอมอ่อน หรือบวบเหลี่ยมอ่อน (บวบปอกเหลี่ยมออกให้หมด หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ) 1 ถ้วย
- ข้าวโพดอ่อน (ปอกเปลือกเก็บฝอยปลายดอกออกให้หมดและหั่น) 1 ถ้วย
- เห็ดฟาง (ใช้มีดเกลาโคนและเศษดินออก ล้างน้ำ ผ่า 4 ส่วนตามยาว) 1 ถ้วย
- เห็ดนางฟ้า (ล้างน้ำและผ่าเป็นส่วน) 1 ถ้วย
- ใบแมงลัก (ล้างน้ำทั้งกิ่ง เขย่าให้สะเด็ดน้ำเด็ดเป็นใบ ๆ) 2 ถ้วย
- กุ้งสด 1 ถ้วย
- น้ำลวกกุ้ง 6 ถ้วย
เครื่องแกงเลียง
1. กุ้งแห้ง (แนะนำให้แช่กุ้งแห้งในน้ำร้อนไว้ก่อน จะได้นิ่มโขลกง่ายๆ) ½ ถ้วย
2. เนื้อกุ้งต้ม ½ ถ้วย
3. พริกไทยเม็ด 2 - 3 ช้อนโต๊ะ (จะให้รสเผ็ดร้อนของพริกไทย…ถ้าไม่ชอบจะใส่น้อยกว่านี้ก็ได้)
4. หอมแดง 10 หัวกลาง
5. กะปิอย่างดี 2 ช้อนโต๊ะ
6. กระชาย 3 แง่ง (ใส่เล็กน้อยเพื่อดับกลิ่นคาว จะหอมสมุนไพรเพิ่มขึ้นอีกเยอะเลย)
7. พริกขี้หนูสวน 5-6 เม็ด (ตามชอบ หรือใส่เล็กน้อยถ้าไม่ชอบเผ็ดมาก)
เครื่องปรุง
น้ำปลาอย่างดีสำหรับปรุงรส
วิธีทำ
1. นำผักทุกอย่างมาล้างน้ำให้สะอาดและปอกเปลือกเอาไว้ และเตรียมหั่นผักบางอย่างไว้ …ส่วนบางชนิดเช่นข้าวโพดฝักเราก็เก็บไว้หั่นตอนจะลงหม้อแกงก็ได้ หั่นเสร็จเราจะเก็บใส่ตู้เย็นไว้ก่อน (เพื่อรอสมาชิกกลับมาบ้านครบ เราค่อยนำออกมาทำก็ได้)
1. กุ้งแห้ง (แนะนำให้แช่กุ้งแห้งในน้ำร้อนไว้ก่อน จะได้นิ่มโขลกง่ายๆ) ½ ถ้วย
2. เนื้อกุ้งต้ม ½ ถ้วย
3. พริกไทยเม็ด 2 - 3 ช้อนโต๊ะ (จะให้รสเผ็ดร้อนของพริกไทย…ถ้าไม่ชอบจะใส่น้อยกว่านี้ก็ได้)
4. หอมแดง 10 หัวกลาง
5. กะปิอย่างดี 2 ช้อนโต๊ะ
6. กระชาย 3 แง่ง (ใส่เล็กน้อยเพื่อดับกลิ่นคาว จะหอมสมุนไพรเพิ่มขึ้นอีกเยอะเลย)
7. พริกขี้หนูสวน 5-6 เม็ด (ตามชอบ หรือใส่เล็กน้อยถ้าไม่ชอบเผ็ดมาก)
เครื่องปรุง
น้ำปลาอย่างดีสำหรับปรุงรส
วิธีทำ
1. นำผักทุกอย่างมาล้างน้ำให้สะอาดและปอกเปลือกเอาไว้ และเตรียมหั่นผักบางอย่างไว้ …ส่วนบางชนิดเช่นข้าวโพดฝักเราก็เก็บไว้หั่นตอนจะลงหม้อแกงก็ได้ หั่นเสร็จเราจะเก็บใส่ตู้เย็นไว้ก่อน (เพื่อรอสมาชิกกลับมาบ้านครบ เราค่อยนำออกมาทำก็ได้)
- เวลาเตรียมผักลงต้ม เลือกผักที่จะใส่พร้อมกันไว้ติดๆ กัน ผักเนื้อแน่น ผักเนื้อแข็งสุกยาก เช่น ฟักทอง แตงโมอ่อน ผักเนื้อเบารองลงมาและสุกรองลงมา เช่น ข้าวโพดอ่อน บวบ ผักสุกง่ายเช่น เห็ดฟาง ถั่วฝักยาว ผักใบใส่ทีหลังสุดคือใบแมงลัก…เป็นต้น
3. วิธีเตรียมกุ้งสดและน้ำซุป ดังนี้
5. พอน้ำแกงเดือดอีกครั้ง…ให้เตรียมผักลงใส่ตามลำดับความสุกช้า เร็ว ของผัก คือผักสุกยากใส่ก่อน ตามด้วยผักสุกง่าย
6. ปรุงรสด้วยน้ำปลาสักเล็กน้อย ต้องชิมด้วย…ระวังเค็มเกิน (เพราะในเครื่องแกงเรามีทั้งกุ้งแห้ง และกะปิแล้ว)
7. ท้ายสุดค่อยใส่ใบแมงลัก ที่เป็นเอกลักษณ์ของแกงเลียงไทย…ใช้ทัพพีกดให้ใบแมงลักจมน้ำแกงให้หมด ปิดเตา พักไว้ 1 นาที คนพอทั่วก่อนตักใส่ชาม…พร้อมเสิร์ฟร้อนๆ
เคล็ดลับความอร่อย
- กุ้งสดนำไปล้างน้ำ ปอกเปลือก แล้วใช้กรรไกรตัดหัวเอาขี้กุ้งออก ตัดขากุ้งออกด้วย และผ่าหลังแบ่งเป็น 2 ซีกดึงเอาเส้นดำทิ้งไป (ที่แคะออกด้วยไม้แหลมหรือไม้จิ้มฟัน)
- จากนั้นเราก็จะนำกุ้งมาต้มในน้ำเดือดแค่พอกุ้งสุก (เพราะเราต้องการน้ำที่ได้จากการต้มกุ้งนี้ไปทำน้ำซุป)…โดยกรองเอาน้ำไว้ด้วย
- พอได้กุ้งที่สุกแล้ว เราก็จะนำมาแกะเอาเปลือกกุ้งออก แต่ยังไม่ทิ้งเปลือกกุ้ง…ถ้าสังเกตุให้ดีที่เปลือกกุ้งจะมีหัว และมันกุ้งติดอยู่…ให้นำเอาทั้งหมดนั้นมาปั่น แล้วละลายในน้ำต้มกุ้ง…และใช้กระชอนกรองเอาส่วนที่ปั่นไม่ละเอียดทิ้งไป…เราก็จะได้น้ำซุปกุ้งสุดแสนหวานมำทำแกงเลียง โดยไม่ต้องใช้ผงปรุงรสใดๆ มาช่วยเลย
5. พอน้ำแกงเดือดอีกครั้ง…ให้เตรียมผักลงใส่ตามลำดับความสุกช้า เร็ว ของผัก คือผักสุกยากใส่ก่อน ตามด้วยผักสุกง่าย
6. ปรุงรสด้วยน้ำปลาสักเล็กน้อย ต้องชิมด้วย…ระวังเค็มเกิน (เพราะในเครื่องแกงเรามีทั้งกุ้งแห้ง และกะปิแล้ว)
7. ท้ายสุดค่อยใส่ใบแมงลัก ที่เป็นเอกลักษณ์ของแกงเลียงไทย…ใช้ทัพพีกดให้ใบแมงลักจมน้ำแกงให้หมด ปิดเตา พักไว้ 1 นาที คนพอทั่วก่อนตักใส่ชาม…พร้อมเสิร์ฟร้อนๆ
เคล็ดลับความอร่อย
- แกงเลียงสามารถใส่ผักได้หลากหลายที่ล้วนเป็นผักพื้นบ้านหาได้ง่ายโดยเฉพาะที่นิยมก็เป็นพวกผักยอด ผักใบแต่ถ้าไม่มีผักตามสูตรก็ไม่เป็นไร…ใส่เป็นผักอย่างอื่นได้ทั้งนั้น …ใส่ผักกี่อย่างก็ได้ตามชอบเลยไม่เสียรสชาติ แต่ที่สำคัญคือต้องใส่ใบแมงลักด้วย เพราะให้รสชาติความหอมอร่อยเฉพาะตัวของแกงเลียง ถ้าขาดไปคงหาความสมบูรณ์ของรสแกงเลียงไม่ได้
- ใครที่ไม่ชอบผักตามสูตรที่ให้มานี้ ก็เลือกผักต่างๆที่ตัวเองชอบได้เลย ผักที่นามาใช้ทำแกงเลียง เช่น ฟักทอง บวบหอม บวบเหลี่ยม ข้าวโพดอ่อน ใบตำลึง เห็ดฟาง เห็นางฟ้า เห็ดออรินจิ เห็ดหอม ยอดฟักแม้ว ยอดมะพร้าวอ่อน ถั่วฝักยาว ฟักข้าว น้ำเต้า หัวปลี แตงโมอ่อน ผักหวาน ดอกขจร เป็นต้น
- แกงเลียงที่อร่อยผักจะต้องสดใหม่ จึงจะทำให้น้ำแกงหวานโดยธรรมชาติและหอมน้ำพริกแกง
- แกงเลียงที่ใส่พริกไทยมากไปจะมีรสขมไม่อร่อย แบบที่เรียกว่า เผ็ดจนขม นั่นแหละครับ
- ถ้าแกงเลียงสำหรับหญิงมีครรภ์ให้ใส่พริกไทย 2-3 เม็ดพอหอม เพราะพริกไทยมีฤทธิ์เผ็ดร้อนใช้มากไปแล้วแสลง ส่วนหลังคลอดใส่พริกไทยได้พอควร ไม่ใส่พริกขี้หนูเพราะจะทำให้น้ำนมแม่เสีย
- แกงเลียงควรรับประทานขณะร้อนๆ
เรียบเรียงข้อมูลโดย : zabwer.com