3 สูตรน้ำพริกอ่อง อร่อยไม่รู้เบื่อ

3สูตรน้ำพริกอ่องอร่อยไม่รู้เบื่อ
น้ำพริกอ่องหรือน้ำพริกรสอร่อยของชาวเหนือผสมรสหวานของเนื้อหมูเสน่ห์รสเปรี้ยวอมหวานของมะเขือเทศทำให้น้ำพริกถ้วยนี้มีรสชาติอร่อยอย่างไม่รู้เบื่อลองถ้าได้นำน้ำพริกอ่องมารับประทานกับข้าวสวยร้อนๆแนมด้วยผักระวังจะทานเพลินจนข้าวหมดไม่รู้ตัวแม้แต่คนที่ไม่ชอบทานมะเขือเทศ(^_^)ก็ขอแนะนำว่าให้ลองหาน้ำพริกอ่องมาทำทานดูนะครับ...วิธีทำนั้นก็ไม่ยาก...แล้วคุณอาจจะหลงรักมะเขือเทศขึ้นมาก็ได้เมื่อได้ทานแล้วก็อยากทานอีกอร่อยและได้คุณค่าเช่นนี้เราก็อยากให้ลองมาทำทานกันสูตรวิธีทำน้ำพริกอ่องก็ง่ายๆตามนี้เลยครับ
สูตรที่1น้ำพริกอ่องสูตรดั้งเดิมชาวเหนือ
น้ำพริกอ่องสูตรดั้งเดิมจะไม่ใส่น้ำตาลเพราะรสเปรี้ยวและหวานจะได้จากผลของมะเขือเทศที่ผสมรสหวานของเนื้อหมูอีกด้วย
ส่วนผสมของน้ำพริกอ่อง
เนื้อหมูบด400กรัม 
มะเขือเทศลูกเล็ก20ลูก 
ผักชีและต้นหอมซอย(เพื่อโรยหน้า)อย่างละ1ช้อนโต๊ะ 
น้ำมันพืช2ช้อนโต๊ะ 
เครื่องแกงน้ำพริกอ่อง 
พริกขี้หนูแห้ง20เม็ด 
หอมแดง5หัว 
กระเทียมไทย(กลีบเล็กหรือกลีบใหญ่ก็ได้)10กลีบ 
กะปิ1ช้อนโต๊ะ 
เกลือ½ช้อนชา
วิธีทำ
1.โขลกพริกหอมแดงกระเทียมรวมกันให้ละเอียด
2.ใส่กะปิและเกลือโขลกให้เข้ากัน
3.ผัดเครื่องแกงกับน้ำมันจนมีกลิ่นหอมใส่เนื้อหมูบดลงผัดให้สุกเติมน้ำเล็กน้อย
4.พอเดือดใส่มะเขือเทศลงผัดให้เข้ากันตั้งไฟต่อจนมะเขือเทศสุกปิดไฟ

สูตรที่2น้ำพริกอ่องสูตรนี้ทำง่ายอร่อยเวอร์
สำหรับสูตรนี้จะไม่เหมือนสูตรของทางเชียงใหม่สูตรนี้จะออกหวานนิดๆและมีรสชาติกลมกล่อมสามารถรับประทานได้ไม่รู้เบื่อ
ส่วนผสมน้ำพริกอ่อง
หมูสับใช้หมูติดมันจะอร่อยเพราะนิ่ม
มะเขือเทศ15-20ลูก
พริกขี้หนูแห้ง15เม็ด(ชอบเผ็ด)
กระเทียม5กลีบ(กระเทียมฝรั่ง)
หอมแดง3หัว(หอมแดงฝรั่ง)
กะปิ1/2ชช
เกลือ1/2ชช
น้ำปลาดี3-4ชต(ชิมรสเอานะคะ)
น้ำตาลปี๊บ2ชต
น้ำมะขามเปียก3ชต
ผักตามชอบวันนี้มีผักชีและแตงกวา
วิธีทำ
1.นำพริกแช่น้ำให้เปื่อยนำพริกกระเทียมหัวหอมกะปิรากผักชีนำไปใส่ครกโขลกรวมกันหรือใส่ในเครื่องปั่นบดให้เข้ากันพร้อมมะเขือเทศให้ละเอียด
2.นำเครื่องแกงที่ได้(จากข้อ1)ลงผัดในน้ำมันให้หอม
3.นำเนื้อหมูสับใส่ลงผัดต่อให้สุก
4.ปรุงรสด้วยน้ำปลา
น้ำตาลปี๊บและน้ำมะขามเปียกให้ได้ออกสามรสคือเปรี้ยวหวานเค็ม
5.แค่นี้ก็เสร็จตักใส่ถ้วยได้ทานกับผักสดตามชอบแล้ว

สูตรที่3น้ำพริกอ่องสูตรอร่อยต้องลอง
เป็นสูตรน้ำพริกอ่องสูตรดั้งเดิมต้นตำรับที่วิชัยทาเปรียวข่าวสดเชียงใหม่นำมาบอกกล่าวกันมีเครื่องปรุงและวิธีทำอย่างไรบ้าง…ไปดูกัน
เครื่องปรุง
หมูสับ250กรัม
มะเขือเทศลูกใหญ่3-4ลูก
พริกแห้งบางช้างหั่นเป็นท่อน
(เอาเมล็ดออกแช่น้ำ3เม็ด)
ข่า2แว่น
กะปิปิ้งไฟหรือถั่วเน่า1ช้อนชา
หอมแดง2หัว
กระเทียมกลีบเล็ก4กลีบ
รากผักชี2ราก
กระเทียมสับ1ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช2ช้อนโต๊ะ
น้ำปลาพอประมาณ
น้ำเปล่า1ถ้วยตวง
รสดีรสหมู1ช้อนชา
ต้นหอมซอยพอประมาณ
ผักชีซอยพอประมาณ
วิธีทำ
1.นำมะเขือเทศมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆเท่าที่จะเล็กได้ต้นหอมผักชีซอยเตรียมไว้
2.ลงมือเตรียมเครื่องน้ำพริกเอาไว้เริ่มจากนำพริกแห้งหอมแดงกระเทียมข่ารากผักชีกะปิหรือถั่วเน่าใส่ครกแล้วโขลกให้ละเอียดเข้ากันนำหมูสับลงไปย้ำกับครกให้เข้ากับเครื่องแกงน้ำพริกที่โขลกไว้นำมะเขือเทศที่หั่นเป็นชิ้นเล็กๆใส่ลงในครกแล้วย้ำให้เข้ากันแต่อย่าให้ละเอียด
3.นำกระทะตั้งไฟ(ใช้ไฟอ่อนๆถึงปานกลาง)ใส่น้ำมันลงไปพอร้อนใส่กระเทียมสับที่เหลือลงไปผัดให้หอม 
4.นำเครื่องที่โขลกกับหมูไว้ลงผัดให้ทั่วใส่รสดีรสหมูลงไปผัดด้วยไฟอ่อน(คั่วน้ำพริกแกงอย่าให้ไหม้เพราะจะทำให้มีรสขมได้)
5.ปรุงรสด้วยน้ำปลาแล้วเคี่ยวจนกระทั่งมะเขือเทศเปื่อย
6.ตักใส่ถ้วยโรยหน้าด้วยผักชีต้นหอมเสิร์ฟพร้อมกับผักสดและแคบหมู

เครื่องเคียงรับประทานกับน้ำพริกอ่อง
แคปหมู,ข้าวเหนียวหรือข้าวสวย
ผักต้มหรือนึ่งตามชอบเช่นฟักทอง,กะหล่ำปลี,ฟักเขียว,บวบ,ดอกแค,หัวปลี
ผักสดเช่นยอดกระถิน,ถั่วพู,แตงกวา,มะเขือเปราะ,ถั่วฝักยาว,ผักไผ่,ผักชีฝรั่ง,สะระแหน่,ผักกาดขาว

แนะนำเพิ่มเติม
มะเขือเทศควรจะใช้มะเขือเทศผลเล็กชนิดเป็นพวงคือมะเขือส้มตามที่คนภาคเหนือเรียกเพราะจะมีรสเปรี้ยวกว่ามะเขือเทศผลใหญ่ 
ส่วนเนื้อหมูควรจะเป็นหมูติดมันเล็กน้อย(จะนิ่มและอร่อย)และสับให้ขาดไม่ติดเป็นพวงหรือเลือกใช้ส่วนสะโพกหมูหรือหมูเนื้อแดงหรือหมูส่วนสันนอกจะอร่อยกว่าแบบซื้อหมูบดสำเร็จครับ…(ซื้อที่ตลาดให้เค้าบดมาเลยก็ได้ครับ)
ถ้าจะให้ดีกับสุขภาพควรทานคู่กับผักจะได้ช่วยในระบบขับถ่ายได้ดีและถ้าจะให้ดียิ่งขึ้นควรทานกับผักสด(เพราะผักต้มจะสูญเสียวิตามินซีไปกับการต้ม)นอกจากนี้สามารถเลือกรับประทานคู่กับผักที่มีในท้องถิ่นของเราเองถ้าหากอยากจะได้รับสารอาหารหลากหลายจากผักก็ควรรับประทานกับผักหลากสีหลากชนิดนะครับ
ในมะเขือเทศอุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหารที่มีวิตามินและเกลือแร่มากมายทั้งวิตามินซีสูงช่วยบำรุงผิวพรรณให้สวยชุ่มชื่นมีสารไลโคพีนมีสรรพคุณต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดและชะลอการเกิดริ้วรอยมีวิตามินเอบำรุงสายตามีฤทธิ์ในการช่วยขับปัสสาวะช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูงโดยเฉพาะสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งที่อวัยวะต่างๆช่วยระบบการย่อยช่วยการขับถ่ายอุจจาระและประโยชน์อีกมากมาย
ควรระวังปริมาณไขมันดังนั้นน้ำมันพืชที่ใช้ผัด...ควรใส่ให้น้อย
ขอขอบคุณที่มา:zabwer.com