อีกหนึ่งเมนูขนมไทยชื่อดัง ที่หลายคนรู้จักดี แต่เด็กรุ่นใหม่บางคนอาจจะไม่รู้จักขนมชนิดนี้แล้ว ขนมขี้หนูมีชื่อเรียกหลายชื่อ บางคนเรียก ขนมละอองฟ้า หรือ ขนมทราย จัดได้ว่าเป็นขนมไทยอีกชนิดหนึ่งที่ขั้นตอนการทำไม่ได้ยุ่งยากมาก และด้วยความเป็นเอกลักษณ์ของตัวขนม ความหอม ฟูนุ่มของเนื้อแป้ง จึงเป็นขนมไทยอีกชนิดหนึ่ง ที่คนชอบขนมไทยน่าลองทำดูครับ
สูตรขนมขี้หนู (ขนมทราย ขนมละอองฟ้า)
ระยะเวลา 1 ชม 30 นาที
เครื่องปรุงขนมขี้หนู
1. แป้งข้าวเจ้า 4 ถ้วย
2. น้ำลอยดอกมะลิ 6 1/2 ถ้วย
3. น้ำตาลทรายขาว 5 ถ้วย
4. มะพร้าวทึนทึก (ขูดฝอยโรยด้วยเกลือนึ่งสัก 3-5 นาที) 1 ซีก
5. เกลือป่น
วิธีทำขนมขี้หนู
1. หม้อใส่น้ำตาลทราย น้ำลอยดอกมะลิ ตั้งไฟพอให้เดือด และน้ำตาลละลาย ยกลงไว้ให้เย็น นำไปหยอดใส่แป้งทีละน้อย จนแป้งอิ่มน้ำ ดูแป้งจะชื้นๆ
2. นำแป้งที่อิ่มน้ำ ใส่ที่ร่อนแป้งแบบละเอียด ใช้ปลายนิ้วช่วยรวนตัวแป้งให้ผ่านตกลงไป ใส่รังถึงที่ปูด้วยผ้าขาวบางไว้ นำไปนึ่งที่ในลังถึงที่ตั้งไฟแรงให้น้ำเดือด 40 – 45 นาที (คอยดูอย่าให้น้ำในลังถึงแห้ง)
3. ใช้ทัพพีตักแป้งที่นึ่งสุกใส่ถาด ตักน้ำเชื่อมใส่ (ถ้าจะผสมสีให้หยดสีใส่ในน้ำเชื่อมได้) เคล้าให้เข้ากัน ดูให้แป้งดูดน้ำเชื่อมจนอิ่มตัว ใส่พักไว้ในถาดให้แป้งแห้งตัว ประมาณ 10-15 นาที ใช้ส้อมขูด เขี่ยเบาๆ จนแป้งกระจายเนื้อดูฟูละเอียด
4. เวลารับประทาน โรยหน้าด้วยมะพร้าวทึนทึกขูด
ที่มา http://www.foodtravel.tv/
สูตรขนมขี้หนู (ขนมทราย ขนมละอองฟ้า)
ระยะเวลา 1 ชม 30 นาที
เครื่องปรุงขนมขี้หนู
1. แป้งข้าวเจ้า 4 ถ้วย
2. น้ำลอยดอกมะลิ 6 1/2 ถ้วย
3. น้ำตาลทรายขาว 5 ถ้วย
4. มะพร้าวทึนทึก (ขูดฝอยโรยด้วยเกลือนึ่งสัก 3-5 นาที) 1 ซีก
5. เกลือป่น
วิธีทำขนมขี้หนู
1. หม้อใส่น้ำตาลทราย น้ำลอยดอกมะลิ ตั้งไฟพอให้เดือด และน้ำตาลละลาย ยกลงไว้ให้เย็น นำไปหยอดใส่แป้งทีละน้อย จนแป้งอิ่มน้ำ ดูแป้งจะชื้นๆ
2. นำแป้งที่อิ่มน้ำ ใส่ที่ร่อนแป้งแบบละเอียด ใช้ปลายนิ้วช่วยรวนตัวแป้งให้ผ่านตกลงไป ใส่รังถึงที่ปูด้วยผ้าขาวบางไว้ นำไปนึ่งที่ในลังถึงที่ตั้งไฟแรงให้น้ำเดือด 40 – 45 นาที (คอยดูอย่าให้น้ำในลังถึงแห้ง)
3. ใช้ทัพพีตักแป้งที่นึ่งสุกใส่ถาด ตักน้ำเชื่อมใส่ (ถ้าจะผสมสีให้หยดสีใส่ในน้ำเชื่อมได้) เคล้าให้เข้ากัน ดูให้แป้งดูดน้ำเชื่อมจนอิ่มตัว ใส่พักไว้ในถาดให้แป้งแห้งตัว ประมาณ 10-15 นาที ใช้ส้อมขูด เขี่ยเบาๆ จนแป้งกระจายเนื้อดูฟูละเอียด
4. เวลารับประทาน โรยหน้าด้วยมะพร้าวทึนทึกขูด
ที่มา http://www.foodtravel.tv/