สาคูบัวลอย
เป็นขนมโบราณที่ทำง่าย ตัวบัวลอยที่ทำจากเม็ดสาคู อร่อยเหนียวนุ่ม ชุ่มน้ำกะทิที่เจือน้ำตาลมะพร้าว
ถึงอากาศจะร้อน แต่ก็ดีงาม เพราะเด็กน้อยช่วยปั้น กลมเล็กน่ารัก จนแม่ต้องสลายเม็ดบัวลอยมหึมาของตัวเอง แล้วปั้นใหม่
ส่วนบัวลอยวิลาด คำว่าวิลาด(วิลาศ) แปลว่า ที่มาจากยุโรป สมัยก่อนชาวอินเดียเรียกชาวอังกฤษว่าชาววิลาด และเช่นเดียวกัน สาคูนับเป็นของหายาก ต้องสั่งมาจากต่างประเทศ เพิ่มความกรอบด้วยการนำสาคูมาหุ้มแห้วจึงเป็นที่มาของ บัวลอยวิลาด(วิลาดเพราะสาคู)
ส่วนผสม สูตรและภาพ Fb:Marco Supannikar
==================================
- สาคู(เม็ดเล็กที่ใช้ทำสาคูไส้หมู)
- น้ำดอกอัญชัน
- น้ำคั้นใบเตย
- หัวและหางกะทิ
- น้ำตาลมะพร้าว
- เกลือ
-ใบเตยมัดปม
- น้ำสะอาด
วิธีทำ สูตรและภาพ Fb:Marco Supannikar
==================================
- นำสาคูใส่กระชอน เปิดน้ำไหลผ่าน เพื่อเอาสิ่งสกปรกออก
- นำสาคูใส่ชามผสม 2 ชาม ชามแรกใส่น้ำดอกอัญชัน
ชามที่สอง ใส่น้ำคั้นใบเตย แช่พอท่วม สักพัก รินน้ำออก
เหลือไว้นิดหน่อย ปล่อยสาคูให้ดูดสี พองตัวสัก 20 นาที
ใช้ช้อนพลิกด้านล่างขึ้นมาด้านบนบ้าง สีจะได้เสมอกัน
-ใช้ปลายนิ้วมือ นวดสาคู เเล้วปั้นเป็นลูกกลม พักไว้
- ตั้งหม้อ ใส่น้ำสะอาด ต้มจนเดือด แต่อย่าให้เดือดพล่าน
- หย่อนสาคูที่ปั้นแล้วลงไป เมื่อสุก จะลอยขึ้นมา
- ตักพักในน้ำเย็น
- ตั้งหม้อ ไฟอ่อน ใส่หางกะทิ ใบเตย เกลือ น้ำตาลมะพร้าว
คนผสมกันรอเดือด ใส่หัวกะทิ และตัวสาคูบัวลอย
ปล่อยไว้จนร้อนได้ที่ ตักใส่ถ้วย
มาคุยกัน สูตรและภาพ Fb:Marco Supannikar
===================================
- เป็นอันเข้าใจว่าบัวลอย เพราะเหตุที่ปั้นเป็นลูกกลมๆ ลอยเวลาสุก
- ลักษณะที่ดีของสาคูบัวลอย
คือตัวบัวลอย ต้องนุ่มเหนียว ไม่เละ
- ใช้ปลายนิ้วนวดสาคู ถ้าร่วนไปก็นวดอีก ถ้าแข็งไปก็เติมน้ำ
- ลักษณะที่นวดได้ คือตัวสาคูพองบานพอประมาณ
- พยายามปั้นให้จับตัวกัน อย่าปั้นหลวม เพราะเวลาต้ม สาคูจะแยกตัว
- สาคูที่อมน้ำจะติดมือเวลานวด หมั่นล้างและเช็ดมือให้แห้ง
จะได้ปั้นสะดวก
- บ้านเราใส่น้ำแข็งทุบเพื่อความเย็นชื่นใจ
จึงปรุงน้ำกะทิให้หนักหวาน
- หากกลัวบัวลอยจะพองบาน อมน้ำมาก ให้เตรียมทำน้ำกะทิไว้ก่อน
แล้วอุ่นอีกครั้ง หลังจากสะเด็ดบัวลอยขึ้นจากน้ำเย็น
เป็นขนมโบราณที่ทำง่าย ตัวบัวลอยที่ทำจากเม็ดสาคู อร่อยเหนียวนุ่ม ชุ่มน้ำกะทิที่เจือน้ำตาลมะพร้าว
ถึงอากาศจะร้อน แต่ก็ดีงาม เพราะเด็กน้อยช่วยปั้น กลมเล็กน่ารัก จนแม่ต้องสลายเม็ดบัวลอยมหึมาของตัวเอง แล้วปั้นใหม่
ส่วนบัวลอยวิลาด คำว่าวิลาด(วิลาศ) แปลว่า ที่มาจากยุโรป สมัยก่อนชาวอินเดียเรียกชาวอังกฤษว่าชาววิลาด และเช่นเดียวกัน สาคูนับเป็นของหายาก ต้องสั่งมาจากต่างประเทศ เพิ่มความกรอบด้วยการนำสาคูมาหุ้มแห้วจึงเป็นที่มาของ บัวลอยวิลาด(วิลาดเพราะสาคู)
ส่วนผสม สูตรและภาพ Fb:Marco Supannikar
==================================
- สาคู(เม็ดเล็กที่ใช้ทำสาคูไส้หมู)
- น้ำดอกอัญชัน
- น้ำคั้นใบเตย
- หัวและหางกะทิ
- น้ำตาลมะพร้าว
- เกลือ
-ใบเตยมัดปม
- น้ำสะอาด
วิธีทำ สูตรและภาพ Fb:Marco Supannikar
==================================
- นำสาคูใส่กระชอน เปิดน้ำไหลผ่าน เพื่อเอาสิ่งสกปรกออก
- นำสาคูใส่ชามผสม 2 ชาม ชามแรกใส่น้ำดอกอัญชัน
ชามที่สอง ใส่น้ำคั้นใบเตย แช่พอท่วม สักพัก รินน้ำออก
เหลือไว้นิดหน่อย ปล่อยสาคูให้ดูดสี พองตัวสัก 20 นาที
ใช้ช้อนพลิกด้านล่างขึ้นมาด้านบนบ้าง สีจะได้เสมอกัน
-ใช้ปลายนิ้วมือ นวดสาคู เเล้วปั้นเป็นลูกกลม พักไว้
- ตั้งหม้อ ใส่น้ำสะอาด ต้มจนเดือด แต่อย่าให้เดือดพล่าน
- หย่อนสาคูที่ปั้นแล้วลงไป เมื่อสุก จะลอยขึ้นมา
- ตักพักในน้ำเย็น
- ตั้งหม้อ ไฟอ่อน ใส่หางกะทิ ใบเตย เกลือ น้ำตาลมะพร้าว
คนผสมกันรอเดือด ใส่หัวกะทิ และตัวสาคูบัวลอย
ปล่อยไว้จนร้อนได้ที่ ตักใส่ถ้วย
มาคุยกัน สูตรและภาพ Fb:Marco Supannikar
===================================
- เป็นอันเข้าใจว่าบัวลอย เพราะเหตุที่ปั้นเป็นลูกกลมๆ ลอยเวลาสุก
- ลักษณะที่ดีของสาคูบัวลอย
คือตัวบัวลอย ต้องนุ่มเหนียว ไม่เละ
- ใช้ปลายนิ้วนวดสาคู ถ้าร่วนไปก็นวดอีก ถ้าแข็งไปก็เติมน้ำ
- ลักษณะที่นวดได้ คือตัวสาคูพองบานพอประมาณ
- พยายามปั้นให้จับตัวกัน อย่าปั้นหลวม เพราะเวลาต้ม สาคูจะแยกตัว
- สาคูที่อมน้ำจะติดมือเวลานวด หมั่นล้างและเช็ดมือให้แห้ง
จะได้ปั้นสะดวก
- บ้านเราใส่น้ำแข็งทุบเพื่อความเย็นชื่นใจ
จึงปรุงน้ำกะทิให้หนักหวาน
- หากกลัวบัวลอยจะพองบาน อมน้ำมาก ให้เตรียมทำน้ำกะทิไว้ก่อน
แล้วอุ่นอีกครั้ง หลังจากสะเด็ดบัวลอยขึ้นจากน้ำเย็น